เรื่องที่ 018 จริงหรือไม่ 6 เรื่องที่ น้ำอสุจิ ดีกับร่างกายสาวๆ โดย พญ. มัชฌิมา ฮวบกอง เรื่องที่ 018 จริงหรือไม่ 6 เรื่องที่ น้ำอสุจิ ดีกับร่างกายสาวๆ โดย พญ. มัชฌิมา ฮวบกอง
299646Visitors | [2017-05-18] 

จริงหรือไม่ 6 เรื่องที่ น้ำอสุจิ ดีกับร่างกายสาวๆ

โดย พญ. มัชฌิมา ฮวบกอง


บทความคล้ายคลิกเบท เรียกไลค์เรียกแชร์ที่แพร่หลายในอินเตอร์เนททั้งเวบไซต์ไทยและต่างประเทศเกี่ยวกับประโยชน์ของการบริโภคหรือกินน้ำอสุจิ   ว่ามีประโยชน์ทั้งสารที่อยู่ในน้ำอสุจิรวมถึงประโยชน์ของการร่วมเพศนี้ มีความจริงความลวงอย่างไร ขอเชิญพิจารณาค่ะ

1.อสุจิช่วยลดอาการหดหู่ใจได้

ในบทความต้นทางอ้างว่า เนื่องจากผลการวิจัยสาวจากมหาลัยจำนวน 293 คน ในมหาวิทยาลัย State University of New York ใน Albany พบว่าอสุจิสามารถลดอาการซึมเศร้าได้ โดยเปรียบเทียบระหว่างสาวที่มีคู่รักใช้ถุงยาง และ สาวที่คู่รักไม่ได้สวมถุงยาง พบว่าสาวที่คู่รักไม่ได้สวมถุงยางมีอาการหดหู่หรือซึมเศร้ามากกว่า

ตามการศึกษานี้ ผู้เขียนได้กล่าวว่า อสุจิ นั้นเมื่อเข้าไปในร่างกายของผู้หญิง จะเข้าสู่กระแสเลือดในร่างกายแม้เพียงจะไม่กี่ชั่วโมงในการสอดใส่ ทำให้ร่างกายของผู้หญิงนั้นได้รับ อสุจิ อย่างรวดเร็ว และถือว่าเป็นผลดีได้อย่างง่ายดายทันทีที่เข้ากระแสเลือด  เป็นข้อมูลที่อ่านแล้วขนลุกเลยทีเดียว แทบจะหยิบเอามาเป็นวาระแห่งชาติให้รัฐบาลโปรโมทสนับสนุนการมีบุตรเลยในทันที. แต่ข้อเท็จจริง คือ การศึกษาดังกล่าวทำขึ้นจริงตั้งแต่ปี ค.ศ.2002 โดยเป็นลักษณะแบบสอบถาม โดยทำการสรุปจากอาการที่ถามได้ ณ  เวลาที่ทำการสำรวจ. ไม่ใช่เป็นการศึกษาที่จะสรุปผลบอกว่าสารในอสุจิจะสามารถซึมเข้ากระแสเลือดได้ อีกนัยหนึ่งคือ. รูปแบบการศึกษาโดยการสำรวจสอบถามเพียงอย่างเดียว. ข้อมูลที่ได้จะไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งนี้เกิดจากสิ่งนั้น ซึ่งต้องอาศัยการพิสูจน์หรือทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่เหมาะสม

2.น้ำอสุจิช่วยให้หลับสบายขึ้น

บทความต้นทางอ้างถึงว่าในน้ำอสุจิมีสารชื่อ "เมลาโทนิน" ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้นอนหลับและผ่อนคลาย และอ้างว่า การรับน้ำอสุจิไม่ว่าจะเป็นทางการรับประทานหรือจากการร่วมเพศในช่องทางปกติจะได้รับสารดังกล่าว. และทำให้เกิดการนอนหลับที่ดีขึ้น. ความจริงก็คือ. ในน้ำอสุจิมีสารดังกล่าวจริง. แต่มีปริมาณน้อยมาก และไม่มีข้อมูลหรือการศึกษาที่พิสูจน์ว่าการกินหรือการรับน้ำอสุจิจะได้รับสารเมลาโทนินดังกล่าวมากพอจะส่งผลถึงการนอนหลับได้

 3.นานาด้วยวิตามิน

หนึ่งช้อนโต๊ะของอสุจิของคุณผู้ชายมีค่าเท่ากับ โปรตีนกว่า 200 ชนิด และอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารมากมายเช่น วิตามินซี แคลเซียม คลอรีน ซิตริก ฟรุคโตส แมกนีเซียม โพแทสเซียม ซิงค์  ที่เด่นๆเลยก็จะเป็น ซิงค์ที่สามารถช่วยให้สาวๆเต่งตึง ลดหน้าแก่ และสารแอนตี้อ็อกซิแดนซ์ เพราะฉะนั้นวิตามิน อาหารเสริม โบกมือลาได้เลย อ่านแบบนี้บริษัทผลิตอาหารเสริมและวิตามินคงล้มละลายในทันที  แต่ความเป็นจริง. คือ. การค้นพบสารประกอบทางเคมีมากมายหลายชนิดในน้ำอสุจิเป็นเรื่องจริงทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เช่นกัน. สารเหล่านี้มีปริมาณน้อยมาก. และไม่มีข้อมูลหรือการศึกษาที่พิสูจน์ว่าการกินหรือการรับน้ำอสุจิจะได้สารเหล่านี้และดูดซึมได้. จนร่างกายเอาไปใช้ประโยชน์ได้เมื่อเทียบกับการกินอาหารเสริมหรือวิตามินตามปกติ

4.ลดความดันในเลือด

สาวๆที่ชอบกลืนน้ำอสุจิเป็นประจำ สามารถลดอาการครรภ์เป็นพิษได้ ครรภ์เป็นพิษนั้นเกิดจาก จากที่คุณมีอาการความดันเลือดสูงเกินไป เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้ร่างกายและลูกในอนาคตของคุณแข็งแรงก็ “กลืนกิน” ซะ. อันนี้อ่านแล้วยิ่งขนลุกเหมือนเป็นการบอกทางอ้อมว่าหากคุณแม่มีอาการครรภ์เป็นพิษ ก็ใช้การทานน้ำอสุจิจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา. และการกินน้ำอสุจิเป็นการบำรุงครรภ์ทางหนึ่ง.  ความจริงคือ. มีการศึกษาเป็นการรวบรวมข้อมูลในหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะความดันโลหิตสูงจากประเทศอิหร่านเพื่อหาสาเหตุที่เป็นไปได้ของภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ดังกล่าว. พบว่าภาวะนี้อาจจะเกี่ยวกับภูมิต้านทานของมารดาที่เจออสุจิทั้งในช่วงก่อนตั้งครรภ์และขณะตั้งครรภ์ทางการร่วมเพศ. ซึ่งในการศึกษาต้นทางไม่ได้กล่าวถึงผลของการกินอสุจิ. และไม่ได้บอกว่าอสุจิช่วงบำรุงครรภ์แต่อย่างใด

5.ลดการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้

ถ้าเป็นห่วงคุณผู้ชายล่ะก็ว่าจะป่วยเป็นโรคนี้. การที่ฝ่ายชายมีการหลั่งบ่อย ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้. ตาม  The Journal of the American Medical Association ได้รายงานไว้. ซึ่งเป็นข้อมูลซึ่งได้จากการศึกษาปัจจุบัน ดังนั้นจึงมีข้อมูลที่เชื่อถือได้จริง

6.ดับไฟได้ด้วยวิธีทางธรรมชาติ

บทความจากเนทระบุว่า. นอกจากอสุจิจะทำลูกได้แล้ว อสุจิยังสามารถดับไฟได้ด้วย  เพราะงานวิจัยของ Polytechnic University of Turin บอกว่า อสุจินั้นสามารถลดปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดไฟได้ ซึ่งปัจจุบันมหาวิทยาลัยนี้กำลังดำเนินการและศึกษา DNA ของเซลล์อสุจิอยู่.   ความจริงก็คือ. งานวิจัยดังกล่าวศึกษาเซลล์อสุจิของปลาเฮอร์ริ่ง ไม่ใช่อสุจิมนุษย์แต่อย่างใด 

ดังนั้น การรับข้อมูลที่มีการแชร์ในโลกอินเตอร์เนทจึงควรใช้วิจารณญาณก่อนจะเชื่อหรือแชร์ต่อเป็นอย่างยิ่ง