Clinic ตรวจเบื้องต้น ..สมาคมแพทย์สตรีฯ

เตรียมตัว การตรวจ ThinPrep (ตินแพร็พ) เตรียมตัว การตรวจ ThinPrep (ตินแพร็พ)
175892Visitors | [2020-01-16] 

การตรวจ ThinPrep (ตินแพร็พ) เป็น วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี Liquid-Based Cytology (LBC) ที่ทันสมัยกว่าการตรวจ Pap smear แบบเดิม โดยมีการเก็บตัวอย่างเซลล์จากบริเวณปากมดลูกด้วยแปรงขนาดเล็ก แล้วนำไปแช่ในน้ำยารักษาสภาพเซลล์ เพื่อนำส่งเข้าสู่ห้องปฏิบัติการ. วิธีนี้ช่วยกำจัดสิ่งปนเปื้อน เช่น มูก เลือด และลดการซ้อนทับของเซลล์ ทำให้เห็นเซลล์ผิดปกติได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย

 


ข้อดีของการตรวจ ThinPrep:

ความแม่นยำสูงขึ้น:
ช่วยลดปัญหาการเก็บตัวอย่างไม่เพียงพอ และลดอัตราการเกิดผลลบลวง (false negative) เมื่อเทียบกับการตรวจแบบ Pap smear. 
กำจัดสิ่งปนเปื้อน:
กระบวนการนี้ช่วยขจัดมูก เลือด และเซลล์อื่น ๆ ที่บดบังการมองเห็น ทำให้เซลล์ที่ต้องการตรวจชัดเจนยิ่งขึ้น. 
ความยืดหยุ่นในการตรวจเพิ่มเติม:
สามารถนำตัวอย่างเซลล์ที่ได้ไปตรวจหาเชื้อ HPV DNA ซึ่งเป็นการตรวจที่เจาะลึกถึงระดับดีเอ็นเอของเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ที่สัมพันธ์กับการเป็นมะเร็งปากมดลูก. 
เพิ่มโอกาสในการตรวจพบความผิดปกติ:
เทคนิคนี้ช่วยให้แพทย์มีโอกาสตรวจพบความผิดปกติของเซลล์ได้ดียิ่งขึ้น

การเตรียมตัว

1.ทำความสะอาดบริเวณช่องคลอด

ควรทำความสะอาดบริเวณช่องคลอดให้ดี ด้วยการล้างด้วยสบู่แบบธรรมดาที่มีความอ่อนโยนต่อผิว โดยล้างแค่ภายนอกเท่านั้น ไม่ต้องสวนล้างข้างใน ที่สำคัญไม่ต้องทาแป้งหรือฉีดสเปรย์เพื่อดับกลิ่นใดๆ ทั้งสิ้น แค่ล้างทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งก็พอ

2.ใส่กระโปรงหรือกางเกงหลวมๆ

เพราะขั้นตอนการตรวจภายในจะต้องถอดกางเกงออกก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจ ดังนั้น จึงควรใส่กางเกงหลวมๆ ที่สามารถถอดได้ง่าย หรือจะใส่กระโปรงแทนก็ได้ เพราะจะช่วยให้การตรวจเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น ใครที่ไม่อยากเจอกับความยุ่งยากในการตรวจ อย่าเผลอใส่กางเกงคับแน่นไปเชียว

3.เลี่ยงช่วงมีประจำเดือน

แพทย์จะไม่ตรวจภายในช่วงที่มีประจำเดือน นั่นก็เพราะเป็นช่วงที่มดลูกอาจเกิดการติดเชื้อได้ง่าย ดังนั้นหากคิดจะตรวจภายใน ควรเลี่ยงให้พ้นช่วงมีรอบเดือนไปก่อนดีกว่า หรือ ให้ประจำเดือนหมดแล้วอย่างน้อย 7 วัน ขึ้นไป 

4.อย่าโกนขน

ไม่ควรโกนขน เพราะอาจทำให้การตรวจภายในไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากโรคบางโรคจะต้องวินิจฉัยโดยดูลักษณะของขนบริเวณอวัยวะเพศด้วย หากโกนขนออกจึงทำให้หมอวินิจฉัยได้ลำบากนั่นเอง นอกจากนี้การโกนขน ก็จะทำให้อวัยวะเพศบอบบางลงกว่าเดิม และอาจเกิดการติดเชื้อหรือเป็นเชื้อราได้ง่ายเช่นกัน

5.งดมีเพศสัมพันธ์

ก่อนตรวจภายใน ควรงดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 48 ชั่วโมง เพื่อให้การตรวจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และผลตรวจวินิจฉัยไม่คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง

6.อย่าสวนล้างช่องคลอด

ไม่ควรสวนล้างช่องคลอดก่อนไปตรวจภายใน เพราะการสวนล้างอาจทำให้ส่วนที่เป็นสาเหตุของโรคถูกชำระล้างออกไปด้วย ทำให้แพทย์ไม่สามารถตรวจวินิจฉัยได้หรือตรวจไม่พบ นอกจากนี้การสวนล้างก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเป็นการทำลายแบคทีเรียชนิดดีออกไป เพราะฉะนั้นหากไม่จำเป็น ก็ห้ามสวนล้างช่องคลอดเด็ดขาด


CR:https://www.sanook.com/women/61239/